เรือดำน้ำไทย 4 ลำแรกเข้าประจำการกองทัพเรือไทยเมื่อ 82 ปีก่อน

Thailand & WorldWars

19 กรกฎาคม พ.ศ. 2481 เรือดำน้ำไทย 4 ลำแรกเข้าประจำการกองทัพเรือไทยว่าจ้างบริษัทมิตซูบิชิ เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ต่อเรือดำน้ำพร้อมกัน 4 ลำ ได้รับชื่อพระราชทานว่าเรือดำน้ำ มัจฉาณุ, วิรุณ, สินสมุทรและพลายชุมพล โดยเรือดำน้ำทั้ง 4 ลำมีระวางขับน้ำประมาณ 370 ตัน ราคาลำประมาณ 820,000 บาท

เรือดำน้ำสินสมุทรและพลายชุมพลเดินทางมาถึงประเทศไทยในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2481 และเรือดำน้ำมัจฉาณุและวิรุณเดินทางเข้ามาสมทบในภายหลัง ก่อนประจำการกองทัพเรือไทยได้ส่งนายทหารไปฝึกที่ประเทศญี่ปุ่นจำนวนหนึ่ง

ในระหว่างยุทธนาวีเกาะช้าหลังจากเรือหลวงธนบุรีพลาดโดนฝรั่งยิงจนอับปางลง กองทัพเรือไทยได้ส่งเรือดำเข้าเป็นกองหนุนฝ่ายฝรั่งเศสเกรงถูกโจมตีจากเรือดำน้ำจึงล่าถอยออกจากพื้นที่สู้รบ อีกทั้งการรบทางทะเลในยุคเรือดำน้ำถือเป็นอาวุธที่น่ากลัวและไม่สามารถตรวจพบได้จนกระทั่งช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงมีเทคโนโลยีโซนาร์ตรวจจับเรือดำน้ำเกิดขึ้น

เรือดำน้ำไทยทั้ง 4 ลำยังคงปฏิบัติภารกิจต่อโดยดำอยู่ใต้น้ำนาน 12 ชั่วโมงเพื่อคุ้มกันแนวรบทั้งหมดภายหลังการปะทะรวมไปถึงการแบ่งกำลังบางส่วนออกไล่ล่าเรือฝรั่งเศสแต่ไม่มีการปะทะเกิดขึ้น ประกอบกับฝรั่งเศสมองเห็นเรือหลวงธนบุรีของไทยจมจึงไม่คิดที่รุกเพิ่มเติม

ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เรือดำน้ำทั้ง 4 ลำไม่ได้ออกปฏิบัติภารกิจมากนักเนื่องจากอ่าวไทยอันตรายและเต็มไปด้วยทุ่นระเบิด อย่างไรก็ตามในระหว่างที่กรุงเทพถูกฝ่ายสัมพันธมิตรทิ้งระเบิดใส่โรงไฟฟ้า รัฐบาลในขณะนั้นได้ใช้เรือดำน้ำทั้ง 4 ลำปั่นกระแสไฟฟ้าส่งเข้ามาใช้งานในกรุงเทพทดแทนโรงไฟฟ้าที่ถูกทำลาย

เรือดำน้ำไทยทั้ง 4 ลำปลดประจำการพร้อมกันในวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 เหตุผลส่วนหนึ่งมาจากญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 และถูกห้ามผลิตชิ้นส่วนอาวุธทางการทหารทำให้เรือดำน้ำไทยขาดชิ้นส่วนที่ใช้ซ่อมแซมบำรุงรักษา

ที่มาของข้อมูล

Matchanu-class submarine