ชายหนุ่มผู้ที่เกิดมาเพื่อเป็นนักล่าสังหารเหนือน่านฟ้ายุโรปและเสียชีวิตในยุทธเวหาระหว่างสงครามโลกครั้ง 1 บารอนแดง (Red Baron) หรือ มันเฟรท ฟ็อน ริชท์โฮเฟิน (Manfred Albrecht Freiherr von Richthofen) เสืออากาศจักรวรรดิเยอรมันเจ้าของสถิติยิงเครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรตกจากท้องฟ้ามากกว่า 80 ลำ ในยุทธเวหาเหนือท้องฟ้ายุโรประหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1
สถิติการยิงเครื่องบินคู่ต่อสู้ตกของมันเฟรท ฟ็อน ริชท์โฮเฟินยืนยาวจนถูกทำลายสถิติในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเสืออากาศนาซี เอริช ฮาร์ทมัน ทำสถิติยิงเครื่องบินคู่ต่อสู้ตกทั้งหมด 352 ลำและเป็นสถิติการสังหารบนท้องฟ้าที่ยืนยาวมาจนถึงปัจจุบัน สถิติที่สูงจนน่ากลัวและมันน่าเศร้าที่ชายหนุ่มเหล่านี้ต้องมาต่อสู้ไล่ฆ่ากันบนท้องฟ้าเพียงเพราะมีอุดมการณ์แตกต่างกัน
มันเฟรท ฟ็อน ริชท์โฮเฟินเกิดในครอบครัวชนชั้นสูงในเมืองไคลน์บวร์คปรัสเซีย ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่ประเทศโปแลนด์ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 พื้นที่ประเทศโปแลนด์มีชาวเยอรมันอาศัยอยู่จำนวนหนึ่ง ในวัยเด็กของมันเฟรท ฟ็อน ริชท์โฮเฟินมีชีวิตค่อนข้างสมบูรณ์แบบเนื่องจากครอบครัวมีฐานะสูงใช้ชีวิตในสังคมผู้ดีขี่ม้าล่าสัตว์มีความเชี่ยวชาญในการเล่นยิมนาสติก การโหนบาร์คู่ขนานและคว้าเหรียญในการแข่งขันกีฬา ซึ่งอารเล่นยิมนาสติกนี่เองมีส่วนสำคัญในการควบคุมสติการตัดสินใจและทิศทางในขณะที่ต้องบินผาดโผนตีลังกาหมุนควงสว่านเข้าต่อสู้ในระยะประชิตบนท้องฟ้า (Dogfight)
ในวัย 11 ปีเขาเข้าศึกษาในโรงเรียนเตรียมทหารและสำเร็จการศึกษาในช่วงปี 1911 ก่อนเข้าประจำการในหน่วยทหารม้าอูห์ลัน (Uhlan cavalry unit) ในยุคนั้นไฟสงครามโหมกระหน่ำยุโรป มันเฟรท ฟ็อน ริชท์โฮเฟินเข้าร่วมรบสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี 1914 ประจำการในหน่วยกองทหารเยอรมันต่อสู้ในแนวรับตะวันออกและตะวันตก ในระหว่างการต่อสู้เขาถูกย้ายให้ไปทำตำแหน่งทหารสื่อสารไม่ต้องออกรบในสงคราม วิ่งส่งข่าวตำแหน่งนี้อาจมีความใกล้เคียงกับตำแหน่งของทหารคนหนึ่งที่ชื่อว่าอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ในสงครามโลกครั้งที่ 1
จากความช่วยเหลือของพี่ชายในปี 1915 มันเฟรท ฟ็อน ริชท์โฮเฟินได้รับการช่วยเหลือจากน้องชายให้เข้าฝึกเป็นนักบินในกองทัพจักรวรรดิเยอรมันและเข้าร่วมในฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 2 (Kampfgeschwader 2) ใช้เครื่องบินรุ่น Albatros C.III นอกจากภารกิจทิ้งระเบิดมันเฟรท ฟ็อน ริชท์โฮเฟินยังสามารถยิงเครื่องบินฝรั่งเศสตกได้ 1 ลำ แต่ไม่มีรายงานการสังหารออกมาอย่างเป็นทางการ ในช่วงเวลานั้นเขามั่นใจแล้วว่าตัวเองไม่ได้เกินมาเพื่อต่อสู้บนพื้นดินแต่เกิดมาเพื่อล่าสังหารคู่ต่อสู้บนท้องฟ้าในนามเสืออากาศเยอรมัน
เริ่มต้นไล่ล่าสังหารคู่ต่อสู้บนท้องฟ้า
ในปี 1916 มันเฟรท ฟ็อน ริชท์โฮเฟินได้ย้ายไปประจำในฝูงบินขับไล่ใช้เครื่องบินที่นั่งเดี่ยวรุ่น Jagdstaffel 12 หรือ Royal Prussian Jagdstaffel 12 เครื่องบินขับไล่ปีก 3 ชั้น การล่าสังหารเริ่มต้นด้วยการยิงเครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรตกในวันที่ 17 กันยายน 1916 ระหว่างการต่อสู้เหนือน่านฟ้าเมืองคัมบรี ประเทศฝรั่งเศสและเพิ่มจำนวนการสังหารเครื่องบินคู่ต่อสู้ไปเรื่อย ๆ จนถึง 60 เครื่อง เครื่องบินขับไล่ของเขาถูกทาด้วยเสียแดงกลายเป็นที่มาของฉายาบารอนแดงในหมู่นักบินขับไล่ฝ่ายสัมพันธมิตร ในขณะเดียวกันเสืออากาศทูเทอร์ ฟ็อน ริชท์โฮเฟิน พี่ชายของ มันเฟรท ฟ็อน ริชท์โฮเฟิน ก็ทำสถิติด้วยการยิงเครื่องบินคู่ต่อสู้ตกไปกว่า 40 ลำ
วันที่ 6 กรกฏาคม 1917 มันเฟรท ฟ็อน ริชท์โฮเฟิน ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงถูกยิงบริเวณศรีษะระหว่างการทำยุทธเวหาเหนือน่านฟ้าเมืองเวอร์วิค ประเทศเบลเยียมแต่ก็สามารถประคองตัวเองหนีลงจอดในพื้นที่ปลอดภัยได้สำเร็จ หลักจากรักษาตัวจนหายมันเฟรท ฟ็อน ริชท์โฮเฟินเข้าประจการอีกครั้งในวันที่ 5 กันยายน 1917 อย่างไรก็ตามเขาต้องทนทุกทรมานจากอาการปวดศรีษะและอาเจียนอย่างรุนแรง แต่นั่นเป็นช่วงเวลาท้ายๆ ของสงครามโลกครั้งที่ 1 ไม่มีเวลาพักร้อนกลับบ้านฝ่ายจักรเยอรมันเริ่มตกเป็นรองมันเฟรท ฟ็อน ริชท์โฮเฟินต้องสู้ต่อไปจนตัวตายบนท้องฟ้า
พลีชีพท้องฟ้าเพื่อจักรวรรดิเยอรมัน
21 เมษายน 1918 มันเฟรท ฟ็อน ริชท์โฮเฟินบินขึ้นต่อสู้บนท้องฟ้าทำยุทธเวหาบริเวณท้องฟ้าเหนือแม่น้ำซอมโดยไม่ได้กล่าวอำลาครอบครัวอันเป็นที่รัก ระหว่างการต่อสู้ที่ดุเดือดมันเฟรท ฟ็อน ริชท์โฮเฟินมองเห็นเครื่องบินฝ่ายตัวเองถูกไล่ล่าจึงตัดสินใจหมุนควงสว่านเข้าต่อสู้ระยะประชิดหลังจากกราดยิงต่อสู้ไม่กี่นาทีต่อมา กระสุนนัดหนึ่งพุ่งตัดขั้วหัวใจและปอดของมันเฟรท ฟ็อน ริชท์โฮเฟินอย่างรุนแรงจนทนพิษบาดแผลไม่ไหวขาดใจตายบนท้องฟ้า เครื่องบินรบสีแดงทิ้งดิ่งสู่พื้นโลก ทหารฝ่ายสัมพันธมิตรมองเห็นการต่อสู้ในครั้งนั้นและตรงไปหาจุดที่เครื่องบินของมันเฟรท ฟ๊อน ริชท์โฮเฟินตก ทีมแพทย์ทหารชาวออสเตรเลียเป็นกลุ่มแรกและพบศพของมันเฟรท ฟ๊อน ริชท์โฮเฟินนอนตายบนที่นั่งเครื่องบินขับไล่สีแดงอันเป็นตำนานมาจนถึงปัจจุบัน
เพลง The Red Baron บอกเล่าเรื่องราวของบารอนแดง
ตำนานการต่อสู้ในยุทธเวหาเหนือน่านฟ้ายุโรปของบารอนแดงถูกบอกเล่าผ่านสารคดีและภาพยนตร์มาเป็นระยะในปี 2020 วงดนตรีร็อค SABATON ได้นำเรื่องราวของบารอนแดงมาแต่งเป็นเพลงชื่อ The Red Baron เพื่อรำลึกถึงการต่อสู้บนท้องฟ้าของบารอนแดง
เรียบเรียงข้อมูลโดย THE HISTORY NOW