หลั่งเลือดที่หุบเขาแค๊พยองในสงครามเกาหลี (Battle of Kapyong)

battle-of-kapyong
Wars

สมรภูมิหุบเขาแค๊พยอง (Battle of Kapyong) การต่อสู้อย่างกล้าหาญของกองกำลังสหประชาชาติออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ อังกฤษ สหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้กับกองทัพทหารอาสาสมัครประชาชนจีนบริเวณหุบเขาแค๊พยองเส้นทางยุทธศาสตร์ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงโซลเมืองหลวงประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 22-25 เมษายน 1951

การรบในสมรภูมิหุบเขาแค๊พยองเป็นการเปิดฉากการรุกครั้งใหญ่ของกองทัพทหารอาสาสมัครประชาชนจีน (Chinese Spring Offensive) กองทัพจีนระดมพลครั้งใหญ่มุ่งหน้าบุกหลายทิศทางเข้าสู่กรุงโซลเมืองหลวงประเทศเกาหลีใต้ หลังจากประสบความสำเร็จในการขับไล่กองกำลังสหประชาชาติออกจากพื้นที่บริเวณเกาหลีเหนือ

บริเวณหุบเขาแค๊พยองเส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญมุ่งหน้าสู่กรุงโซล กองกำลังสหประชาชาติวางกำลังทหารแนวหน้าไว้ 2 กำลังพล คือ กองพันที่ 3 กรมทหารออสเตรเลีย (3 RAR) ประจำเนินเขา 504 และกองพันทหารราบที่ 2 เจ้าหญิงแพทริเซียแคนาดา (2 PPCLI) ประจำเนินเขา 677 ทหารจากทั้งสองประเทศมีกำลังพลประมาณ 700-1500 นาย มีแม่น้ำแค๊พยองไหลตัดระหว่างกลางกองกำลังจากทั้งสองประเทศ ส่วนแนวรบด้านหลังมีทหารกองทัพอังกฤษตั้งค่ายอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของทหารแคนาดาและใช้กองทหารปืนใหญ่นิวซีแลนด์ยิงสนับสนุนโดยมีสหรัฐอเมริกาสนับสนุนรถถังและเครื่องบินรบ

การปะทะเกิดขึ้นในช่วงเย็นของวันที่ 22 เมษายน กองทัพทหารอาสาสมัครประชาชนจีนคาดว่ามีกำลังทหารมากกว่า 10,000 นาย ใช้ยุทธวิธีการบุกแบบคลื่นมนุษย์วิ่งเข้าใส่ทหารฝ่ายตรงข้าม อย่างไรก็ตามด้วยตำแหน่งที่ได้เปรียบบนเนินเขาสูงกว่าของกองกำลังสหประชาชาติทำให้สามารถตั้งค่าย ขุดแนวสนามแพละ ผสมการอำนาจการยิงปืนใหญ่สนับสนุนจากกองทหารปืนใหญ่นิวซีแลนด์ทำให้สกัดการบุกจากกองทัพทหารอาสาสมัครประชาชนจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้จะมีกำลังพลที่น้อยกว่า

การปะทะหนักหน่วงเกิดขึ้นอีกครั้งในคืนวันที่ 23 เมษายน บริเวณเนินเขา 504 ที่มีกองพันที่ 3 กรมทหารออสเตรเลีย (3 RAR) ประจำการอยู่การสู้รบเป็นไปอย่างดุเดือดข้ามคืนตั้งแต่เวลาประมาณ 21.30 น ถึงตอนเช้าของวันที่ 24 เมษายน ในตอนบ่ายของวันนั้นกรมทหารออสเตรเลีย (3 RAR) ต้านการบุกไม่ไหวถอยออกจากเนินเขา 504 อย่างไรก็ตามอาจเป็นการถอยตามยุทธวิธีเพราะสิ่งที่ตามมาหลังจากทหารออสเตรเลียออกจากเนิน 504 คือ การเปิดฉากทิ้งระเบิดจากเครื่องบินรบสหรัฐอเมริกาและตามมาด้วยการบุกตีโต้ยึดคืนโดยทหารออสเตรเลีย

ช่วงบ่ายของวันที่ 24 เมษายน กองทัพทหารอาสาสมัครประชาชนจีนเริ่มหันเหความสนใจไปบุกโจมตีเนิน 677 ที่มีกองพันทหารราบที่ 2 เจ้าหญิงแพทริเซียแคนาดา (2 PPCLI) ประจำการอยู่ประมาณ 700-1000 นาย ต้องต่อสู้กับทหารอาสาสมัครประชาชนจีนหลายพันนาย การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาใช้เครื่องบินได้พยายามขนส่งยุทธปัจจัยในการรบสนับสนุนทางอากาศจนทหารแคนาดาสามารถต้อต้านการบุกและรักษาเนิน 677 เอาไว้ได้

การสู้รบในสมรภูมิหุบเขาแค๊พยองสิ้นสุดลงในช่วงเย็นของวันที่ 25 เมษายน กองทัพทหารอาสาสมัครประชาชนจีนถอยออกจากพื้นที่หุบเขาแค๊พยองประมาณการว่าฝ่ายกองทัพทหารอาสาสมัครประชาชนจีนอาจมีทหารเสียชีวิต 1,000-2,000 นาย ฝ่ายกองกำลังสหประชาชาติมีทหารเสียชีวิต 47 นาย ส่วนใหญ่เป็นทหารในกองพันที่ 3 กรมทหารออสเตรเลีย (3 RAR) เนื่องจากเป็นจุดแรกของการปะทะและเป็นจุดที่กองทัพทหารอาสาสมัครประชาชนจีนโหมโจมตีหนักมากที่สุด

แม้กองกำลังสหประชาชาติจะได้รับชัยชนะในสมรภูมิหุบเขาแค๊พยองการสู้รบก็ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องในบริเวณอื่น ๆ จนถึงวันที่ 30 เมษายน กองทัพทหารอาสาสมัครประชาชนจีนเกือบบุกไปถึงกรุงโซลแต่ต้องถูกตีโต้จนถอยร่อนกลับไปพื้นที่บริเวณเกาหลีเหนือในวันที่ 22 พฤษภาคม 1951 ช่วงท้ายของสงครามเกาหลีเป็นไปในลักษณะแย่งชิงพื้นที่เนินเขาจากลูกหนึ่งไปเนินเขาลูกหนึ่ง การรบเป็นไปอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 27 กรกฎาคม 1953 ทั้งสองฝ่ายได้หยุดยิงภายใต้ข้อความตกลงการสงบศึกเกาหลี บริเวณหมู่บ้านพันมุนจ็อม โดยใช้เส้นขนานที่ 38 และเขตปลอดทหารเป็นเส้นแบ่งเขตแดน

เรียบเรียงโดย THE HISTORY NOW