วันดีเดย์ (D-Day) การยกพลขึ้นบนบกชายหาดนอร์ม๊องดี ประเทศฝรั่งเศส

d-day-normandy-landings
FeaturedWars

วันดีเดย์ทหารฝ่ายสัมพันธมิตรยกพลขึ้นบนบกตลอดชายหาดแคว้นนอร์ม๊องดี ประเทศฝรั่งเศส ภายใต้ชื่อปฏิบัติการโอเวอร์ลอร์ดในมหาสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อกำหนดชะตากรรมของโลกที่มีเสรีภาพหรือเต็มไปด้วยเผด็จการทหารนาซีเยอรมัน

วันดีเดย์เป็นการรบที่สำคัญมากที่สุดสมรภูมิหนึ่งในสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทหารฝ่ายสัมพันธมิตร 39 กองพลประกอบด้วยกองกำลังผสมสหรัฐอเมริกา อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย เบลเเยียม เนเธอร์แลนด์ กรีซ นิวเซีแลนด์และประเทศอื่น ๆ รวมประมาณ 150,000 นายภายใต้การบังคับบัญชาของนายพลดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์

ปฏิบัติการโอเวอร์ลอร์ดเริ่มในเวลาประมาณ 4 ทุ่มของคืนวันที่ 5 มิถุนายน ฝ่ายสัมพันธมิตรส่งเครื่องบินลำเลียงพร้อมพลร่มประมาณ 1,200 ลำ กระโดดร่มลงหลังแนวตั้งรับของนาซีเยอรมันที่เรียกว่า “กำแพงแห่งแอตแลนติก” เพื่อแย่งชิงสะพาน ทำลายฐานปืนใหญ่ ทำลายระบบการสื่อสารรวมไปถึงเส้นทางการส่งกำลังบำรุงของกองทัพนาซีเยอรมัน

เมื่อเข้าสู่เที่ยงคืนพลร่มชุดแรกเริ่มกระโดดลงสู่เป้าหมาย การสู้รับในคืนวันที่ 5 มิถุนายนดุเดือด เช่น การสู้รบแย่งชิงสะพาน Pegasus Bridge สะพานจุดยุทธศาสตร์ข้ามแม่น้ำที่มุ่งหน้าไปเมือง Caen การสู้รบรอบ ๆ เมือง Carentan ทั้งสองเมืองนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์ปีกซ้าย-ขวาของปฏิบัติการยกพลขึ้นบกในครั้งนี้ แม้จะมีการวางแผนการเป็นอย่างดีแต่พลร่มฝ่ายสัมพันธมิตรหลายร้อยนายเสียชีวิตเพราะกระโดดร่มลงผิดตำแหน่ง ภารกิจของเขามีความสำคัญอย่างมากต่อการยกพลขึ้นบกในช่วงเช้าของวันที่ 6 มิถุนายน

เวลาประมาณ 05.00 นของเช้าวันที่ 6 มิถุนายนท่ามกลางพายุฝนรุนแรงกองเรือฝ่ายสัมพันธมิตรเริ่มยิงปืนใหญ่กระหน่ำราวเสียงฟ้าผ่าเข้าทำลายแนวป้องกันชายฝั่งของกองทัพนาซีเยอรมันพร้อมกับส่งทหารลงเรือยกพลขึ้นบกเตรียมบุก กองทัพนาซีเยอรมันที่ทำหน้าที่รักษาแนวป้องกันกำแพงแห่งแอตแลนติกตลอดชายแหดแคว้นนอร์ม๊องดีต้องตกตะลึงกับภาพกองเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ของฝ่ายสัมพันธมิตรที่มุ่งหน้าเข้าหาชายหาดสำคัญ 4 แห่งตามชื่อรหัสว่า Utah , Omaha , Gold , Juno และ Sword การสู้รบเป็นไปอย่างดุเดือด

โดยเฉพาะชายหาด Omaha กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรนำโดยสหรัฐอเมริกาถูกโจมตีจนเกือบแตกพ่ายลงทะเลเนื่องจากเป็นบริเวณกองกำลังหลักที่ทหารนาซีเยอรมันวางกำลังไว้หนาแน่นมากที่สุด รถถัง M4 Sherman ของสหรัฐที่ถูกดัดแปลงให้สามารถวิ่งลอยบนผิวน้ำก็จมลงในทะเลก่อนถึงชายหาดและการยิงสนับสนุนต้องใช้วิธีการยิงปืนใหญ่สนับสนุนจากเรือรบในทะเล การรบชายหาด Omaha ต้องกินเวลายาวนานจนฝ่ายกองทัพนาซีเยอรมันเริ่มหมดกระสุนและกำลังบำรุงจึงเป็นฝ่ายอ่อนแรงและถูกกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรตีแตกพ่ายไปในที่สุด

หลังการต่อสู้ตลอดทั้งวันกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรสามารถยึดชายหาดแคว้นนอร์ม๊องดีได้ตามเป้าหมายแต่ต้องแลกมาด้วยชีวิตทหารที่เสียชีวิตไปกว่า 5,000 นายบาดเจ็บมากกว่า 10,000 นายในวันแรกของการยกพลขึ้นบกและยังมีทหารที่ต้องเสียชีวิตเพิ่มอีกหลายหมื่นนายตลอดระยะเวลาในอีกหลายเดือนต่อมา 

ภายหลังการต่อสู้แย่งชิงพื้นที่บริเวรชายหาดแคว้นนอร์ม๊องดี ทหารฝ่ายสัมพันธมิตรได้ทำการยกพลขึ้นบกตลอดชายหาดแคว้นอนอร์ม๊องดีรวมกันกว่า 850,000 นาย รถยนต์ รถถัง รถลำเลียงพลกว่า 148,000 ทรัพยากรสงครามอาวุธ อาหารและยารักษาโรครวมกันกว่า 570,000 ตัน นับเป็นการเคลื่อนกำลังพลครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สงครามและมีผลอย่างมากต่อทิศทางสงครามโลกครั้งที่ใน 2 ในทวีปยุโรป

ปัจจุบันรัฐบาลประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรได้ร่วมกันสร้างอนุสรณ์สถานเพื่อเป็นเกียรติให้กับทหารที่เสียชีวิตในการยกพลขึ้นบกช่วงวันดีเดย์เอาไว้ในประเทศฝรั่งเศสชื่อว่า Normandy American Cemetery and Memorial นอกจากนี้ยังมีการสร้างอนุสรณ์สถานทหารนาซีเยอรมันไว้ด้วยชื่อว่า La Cambe German war cemetery มีหลุมศพทหารเยอรมันกว่า 21,000 นายถูกฝังไว้ที่นั่น 

ทุก ๆ วันที่ 6 มิถุนายนของทุกปีเป็นวันรำลึกถึงทหารหลายพันนายที่ต้องมาจากบ้านมาเสียชีวิตในอีกประเทศหนึ่ง การต่อสู้เพื่อกำหนดชะตากรรมของโลกที่มีเสรีภาพและคุณค่าของความเป็นมนุษย์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 หากฝ่ายสัมพันธมิตรเป็นฝ่ายพ่ายแพ้โลกอาจเต็มไปด้วยระบอบเผด็จการทหารแบบนาซีเยอรมันหรือเผด็จการทหารแบบในจักรวรรดิญี่ปุ่น โลกที่เต็มไปด้วยเผด็จการทหารจะเป็นโลกที่ไม่มีเสรีภาพเต็มไปด้วยการกดขี่ข่มเหงเอารัดเอาเปรียบ การผูกขาด โลกที่เต็มไปด้วยเผด็จการทหารเป็นโลกที่ทุกคนไม่ปรารถนา

คลิปวิดีโอรำลึกวันดี-เดย์ การยกพลขึ้นบกกองทัพสัมพันธมิตร

แผนการยกพลขึ้นบนบกชายหาดนอร์ม๊องดี