ออทโท ฟอน บิสมาร์ครัฐบุรุษคนสำคัญในประวัติศาสตร์ประเทศเยอรมัน

otto-furst-von-bismarck
People

ออทโท ฟอน บิสมาร์คก้าวขึ้นสู่นายกรัฐมนตรี ผู้รวมชาติจักรวรรดิเยอรมันและนายกรัฐมนตรีคนแรกแห่งจักรวรรดิเยอรมันผู้สร้างเยอรมันสู่ความเจริญรุ่งเรื่องด้านอุตสาหกรรมและการทหารจนกลายเป็นมหาอำนาจใหม่ในยุโรป

ออทโท ฟอน บิสมาร์คเป็นรัฐบุรุษคนสำคัญในประวัติศาสตร์ประเทศเยอรมันและได้รับการยกย่องจากอดอล์ฟ ฮิตเลอร์เป็นอย่างมากเป็นความฝันและต้นแบบที่ทำให้อดอล์ฟ ฮิตเลอร์อยากก้าวขึ้นสู่เส้นทางการเมืองและประสบความสำเร็จ เช่น เดียวกับ ออทโท ฟอน บิสมาร์ค โดยเฉพาะทักษะในการพูดและการต่อรองการฑูต ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มต้นนั่นอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ใช้ความสามารถทางการฑูตหลายครั้งเพื่อต่อรองและยึดดินแดน

ก่อนหน้าการรวมชาติของจักรวรรดิเยอรมันประกอบด้วยรัฐต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายหลังการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ในปี ค.ศ. 1806 และรวมตัวกันอยู่ภายใต้สมาพันธรัฐเยอรมนีโดยมีออสเตรียเป็นประธานสมาพันธรัฐและปรัสเซียเป็นรองประธานสมาพันธรัฐ ซึ่งทั้งออสเตรียและปรัสเซียพยายามแย่งกันขึ้นเป็นผู้นำและรวมชาติเยอรมันอยู่ตลอดเวลา ปรัสเซียพยายามรวมชาติตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1850 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

การรวมชาติของจักรวรรดิเยอรมันที่ประสบความสำเร็จเกิดขึ้นภายหลังสงครามระหว่างฝรั่งเศสกับปรัสเซีย ในปี ค.ศ. 1871 โดยพระเจ้าวิลเฮล์มที่ 1 แห่งปรัสเซียเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ โดยมีออทโท ฟอน บิสมาร์คดำรงตำแหน่งมุขมนตรีแห่งปรัสเซีย นโยบายการรวมชาติของออทโท ฟอน บิสมาร์ค คือ นโยบายเลือดและเหล็ก เลือดหมายถึงการมุ่งทำสงคราม เหล็กภายถึงการมุ่งพัฒนาอุตสหกรรม ในช่วงที่มีอำนาจออทโท ฟอน บิสมาร์คไม่มีนโยบายล่าอาณานิคมในดินแดนทวีปอื่น

ออทโท ฟอน บิสมาร์คมีบทบาทสำคัญด้านการทูตและการทหารของราชอาณาจักรปรัสเซียในการทำสงครามจนชนะฝรั่งเศส รวมไปถึงการนำราชอาณาจักรปรัสเซียชนะกับเดนมาร์กในปี ค.ศ. 1864 และสงครามกับออสเตรียในปี ค.ศ. 1866

ออทโท ฟอน บิสมาร์ค ในชุดเครื่องแบบสีขาว ค.ศ. 1885

จักรวรรดิเยอรมันถูกก่อตั้งขึ้นในวันที่ 18 มกราคม ค.ศ. 1871 นำโดยปรัสเซียใช้กรุงเบอร์ลินเป็นเมืองหลวงและพัฒนาจักรวรรดิอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นมหาอำนาจใหม่ในยุโรป ออทโท ฟอน บิสมาร์คเสียชีวิตในวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 1898 ต่อมาในปี ค.ศ. 1914 จักรวรรดิเยอรมันทำสงครามโลกครั้งที่ 1 กับจักรวรรดิอังกฤษ ฝรั่งเศสและจักรวรรดิรัสเซีย อย่างไรก็ตามฝ่ายจักรวรรดิเยอรมันก็ตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี ค.ศ. 1918 พระเจ้าวิลเฮล์มที่ 2 แห่งจักรวรรดิเยอรมันยอมสละราชสมบัติในเดียวกันนั้นและนับเป็นจุดสิ้นสุดของระบอบกษัตริย์ในจักรวรรดิเยอรมัน

ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ออทโท ฟอน บิสมาร์คเคยถูกนำชื่อไปตั้งเป็นเรือประจัญบานบิสมาร์คของเยอรมัน เรือประจัญบานขนาดใหญ่ที่สุดในโลกของยุคนั้นด้วยระวางขับน้ำ 50,000 ตัน ก่อนถูกทำลายสถิติด้วยเรือประจัญบานเทียร์พิทซ์ของเยอรมันอีกลำที่มีระวางขับน้ำ 52,600 ตัน ปัจจุบันในประเทศเยอรมันมีอนุสาวรีย์ของออทโท ฟอน บิสมาร์คกระจายอยู่หลายแห่ง

เรียบเรียงโดย THE HISTORY NOW