กองทัพนาซีเยอรมันบุกฝรั่งเศสเริ่มข้ามแม่น้ำเมิซ

Wars

13 พฤษภาคม ค.ศ. 1940 กองทัพนาซีเยอรมันชุดแรกประมาณ 60,000 นายพร้อมรถถังจากหน่วยยานเกราะแพนเซอร์ประมาณ 800 คัน เริ่มข้ามแม่น้ำเมิซบริเวณเมืองเซอด็องประเทศฝรั่งเศส การบุกข้ามแม่น้ำเมิซนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการโอบล้มกองทหารฝ่ายสัมพันธมิตรในประเทศเบลเยียม 

กองทัพนาซีเยอรมันใช้การบุกแบบสายฟ้าแลบบลิทซ์ครีก (Blitzkrieg) การใช้เครื่องบินระดมทิ้งระเบิดและโจมตีซ้ำอย่างหนักหน่วงด้วยรถถังในลักษณะโอบล้อม แผนการที่กองทัพนาซีเยอรมันวางเอาไว้ คือการแบ่งกำลังออกเป็น 2 กลุ่มบุกโจมตีพร้อมกันทั้งด้านเหนือประเทศฮอลแลนด์และด้านใต้เมืองเซอด็องประเทศฝรั่งเศส เพื่อโอบล้อมกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรในประเทศเบลเยียม

กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรถูกโจมตีจนล่าถอยไปถึงที่มั่นสุดท้ายบริเวณท่าเรือเมืองดันเคิร์กประเทศฝรั่งเศส กลายเป็นการสู้รบเพื่อหนีออกจากยุโรปของกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรที่เมืองดันเคิร์กหรือยุทธการที่ดันเคิร์ก ทหารฝ่ายสัมพันธมิตรชุดสุดท้ายหนีออกจากเมืองดันเคิร์กในวันที่ 4 มิถุนายน ค.ศ. 1940 โดยความช่วยเหลือจากเรือประมงและชาวบ้านในประเทศอังกฤษที่นำเรือมาช่วยขนทหารอพยพหนีออกจากท่าเรือเมืองดันเคิร์ก

วันที่ 25 มิถุนายน 1940 กรุงปารีสถูกตีแตก กองทัพนาซีเยอรมันเข้ายึดกรุงปารีสโดยใช้เวลาในการบุกโจมตีทั้งหมดเพียงแค่ 46 วันเท่านั้น อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ถึงกับเดินทางไปกรุงปารีสเพื่อแสดงความยินดีในชัยชนะด้วยตัวเองพร้อมประกาศฝรั่งเศสเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิเยอรมัน 

ตลอดระยะเวลาการบุกฝรั่งเศสนาซีเยอรมันระดมกำลังทหารเข้าร่วมในสงครามกว่า 4 ล้านนายและเป็นการรบที่รวดเร็ว เฉียบขาด รุนแรงมากที่สุดในประวัติศาสตร์สงคราม การบุกแบบสายฟ้าแลบบลิทซ์ครีก (Blitzkrieg) กลายเป็นรูปแบบการรบที่ถูกใช้ในสงครามต่าง ๆ ในเวลาต่อมาโดยเฉพาะหน่วยยานเกราะแพนเซอร์